วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การบ้านวิชาความเป็นครู




เรื่อง

ครูต้นแบบ

เมื่อผมได้เข้า

เรียนเพิ่มเติมระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพครูที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช หลังจากได้ทำการเรียนการสอนมาแล้วจำนวน 1 ภาคฤดูร้อนที่ผ่านมา ในช่วงเดือน เมษายน จนถึง พฤษภาคม 2553 ในช่วงนั้นได้ลงเรียนวิชาหลักสูตรและ วิชาภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู เริ่มเรียนรู้และเข้าใจถึงหลักสูตรที่กำลังใช้อยู่ในปัจจุบัน และหลังจากจบภาคฤดูร้อน ของจริงก็เริ่มปรากฏ

เรื่องเริ่มเป็นเรี่องเมื่อเริ่มเปิดภาคเรียนใหม่ ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2553 วันแรกของการเข้าสู่รั้ว โรงเรียน วิเชียรประชาสรรค์ ในถานะ ครูฝึกสอน หลังจากที่เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการในโรงเรียนนี้ และโรงเรียนชุมชนวัดเขาแก้ววิเชียร ตามโครงการคืนครูให้นักเรียนมาร่วมปี ในตอนนั้นก็ยังรู้สึกเฉย ๆ ยังมั่นใจในความรู้และความสามารถของตนเองอยู่ โรงเรียนเริ่มสอนปรับพื้นฐานเด็กใหม่ ประจำปีการศึกษา 2553 คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยเริ่มในวันที่ 11 นั้น และแล้วก็เกิดขึ้นจนได้ เกิดคำถามในใจของผม คำถามที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย เมื่อสอนปรับพื้นฐานวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในตอนเช้า ผมให้เด็กเขียนเล่าเรียงประสบการณ์ในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา โดยให้เขียนในลักษณะเรื่องสั้น ผมรออยู่นานก็ไม่เห็นมีเด็กคนใหนลงมือเขียน เมื่อสุดความอดทด ผมก็เลยถามเด็กว่าทำไมไม่ยอมเขียน คำตอบที่ได้รับมาคือ เขียนไม่เป็น ... ไม่เป็นไรด้วยไฟอันร้อนแรงของชายหนุ่มผู้ร้อนวิชา ก็เลยลงมือทันทีเริ่มสอนโครงสร้างเรื่องสั้น อย่างละเอียด บทนำ เนื้อเรื่อง และบทสรุปส่งท้าย จากนั้นก็ทำการขึ้นบทนำให้ แล้วให้เด็กเขียนเนื้อเรื่องและบทสรุปส่งท้ายของ นิทานดาวลูกไก่ โดยที่บทสรุปต้องให้ข้อคิดและเรียกอารมณ์ผู้อ่านให้อ่อนไหว ด้วยความสัมพันธ์และความรักของแม่และลูกโดยเปรียบเทียบกับความรักที่แม่มีต่อตัวนักเรียน ... ในส่วนเนื้อเรื่องนักเรียนเขียนได้เหมือนที่เคยฟังกันมา ทว่า กลับสรุปส่งท้ายไม่ได้ คิดไม่ออก เขียนไม่ออก อย่างไรก็เฉย นิ่ง แล้วก็เฉยเหมือนเดิม... ครูคะ ช่วยเฉลยหน่อย... นั่นละคำตอบที่ได้... คณิตศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์ ละนี่ ที่ต้องเฉลยคำตอบ ... ผมได้แต่รำพึงในใจ....

ช่วงบ่ายสอนในหัวข้อประสบการณ์ชีวิต ในวิชาการงานอาชีพ ผมถามนักเรียนและให้นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 อภิปรายในประเด็นที่ว่า โตขั้นอยากเป็นอะไร เด็กเขียนภาษาไทยผิดมาก ถึง เกือบครึ่งห้อง อย่างศัพท์พื้นฐาน เช่น คำว่า อยาก นักเรียนจะเขียนเป็น หยาก ฯลฯ งง ซิครับ งานนี้ ที่เหลือไม่ต้องพูดถึง .... ในภาษาไทย อักษร อ นำ ย มีอยู่แค่ อย่า อยู่ อย่าง อยาก ... มันยากไปไหม ที่จะจำ

ไม่ไหวแล้วต้องหาคำตอบของปัญหานี้..... เมื่อก่อนสมัยผมเรียน ประถมศึกษาปีที่ 2 พวกเราอ่านออกเขียนได้หมดแล้วในคำศัพท์พื้นฐาน แต่งเรื่องจากภาพเป็นนิทานได้แล้วในสมัยนั้น ... ทุกวันนี้เกิดไรขึ้น ผมกลับมายังโรงเรียนเดิมของผมตอนผมเรียนชั้นประถม พบครูคนเดิมที่สอนผมมายังอยู่กันเกือบครบ เกษียญอายุไปแล้วจำนวน 4 คน ผมเริ่มคุยกับครูคนเก่า วันวานและบรรยากาศเก่า ๆ กลับมาอีกครั้ง ภาพในอดีตเมื่อ 23 ปีที่แล้วปรากฏเมื่อมองหน้าครู และพูดคุยกัน คุณครูผู้นั้นคือ

นายสุชาติ ด้วงใหญ่ ครูโรงเรียนชุมชนวัดเขาแก้ววิเชียร

รูปร่างเล็ก ผอมบางเพราะร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก ชายผู้ที่ถือคติประจำใจว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุดผู้มีทัศนติ ในวิชาชีพครูของตนเอง ไว้ว่า รู้แต่สอน ทำไม่ได้ ไม่ใช่ครูผู้ที่ยึดหลักอิทธิบาต 4 ในการสอนเด็กนักเรียน ท่านทำการสอนเด็กประถมชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นประถมปีที่3 ที่ผมสังเกตเห็นในวันนี้ เด็กของท่านยังคงอ่านหนังสือ ออก ยังอ่านคล่อง และตอนนี้ท่านได้บูรณาการการเรียนรู้ ทั้งทางด้าน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี เข้ากับสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก ทำให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้รอบตัว การเรียนไม่ได้จำกัดอยู่ในห้อง จ้องกระดานดำ ทำตามคำบอก นอกคอกไม่ได้ อีกต่อไป...เด็กชั้นประถมศึกษาที่ผมเห็น สามารถอ่านศัพท์ภาษาอังกฤษ ไกล้ตัวได้แล้ว ได้ดีกว่าเด็กชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนอีก เด็กสนุกที่จะเรียนรู้และไม่ปล่อยให้ครูว่างเลย จะถามตลอด ขณะที่ท่านคุยกับผมอยู่ก็มาตามเป็นระยะ สำหรับท่าน ตัวหนังสือทุกตัว ทุกที่ในโรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีเสมอ สำหรับครูผู้มีจุดมุ่งหวังเดียวในวิชาชีพ ของท่านคือ

ความสำเร็จของศิษย์คือผลงานของเรา เด็กเป็นกระจกเงาของครู

ท่านไม่ได้ทำอาจารย์ 3 แต่นำผลงานของครูอาจารย์ 3 หลายท่านมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนนักเรียนของท่านตลอดเลือกในส่วนดีที่สุดของแต่ละผลงานมาสร้างสรรค์ผลงานของท่าน...ผลของครู ทว่า... ผู้ผ่านการประเมินผลงานอาจารย์ 3 หลายคนกลับนำผลงานตนไปเป็น อาหารปลวก....สุดท้ายผมถามท่านในประเด็นที่ว่า อยากฝากอะไรไว้กับครูพันธ์ไหม่บ้างต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และพัฒนาเด็ก ๆ ให้เต็มประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนเป็นสำคัญ

นั่นหละครูในดวง

ใจของผม

จากใจ เจนวิทย์ นาคแก้ว ผู้เขียน 5346702124


แผ่นพับ

แนวโน้มการพัฒนาวิชาชีพครู